C L I C K

Tuesday 4 August 2015

ด้านมืดของ....(ฉ ๑๘ +)

เป็นเวลาหลายวันแล้วที่ผมไม่ได้กลับมาเขียน

เอาหล่ะวันนี้ขอพูดอะไรที่มันมืดๆดำๆหน่อย โดยปรกติเวลาใครๆเขียนเรื่องการตลาด มักเขียนในด้านสว่างด้านสดใส หรือ แม้แต่จะพูดแง่ตำหนิ ก็จะออกแนวเชิงสร้างสรรค์
ผมจะใส่พลังลบๆลงในงานเขียนวันนี้ อาจจะไม่เหมาะกับพวกโลกสวย ไร้เดียงสา หรือพวกแอ๊บแบ๊วนะครับ

โดยมากคนเรามักมีสัญชาติญาณดิบ เถื่อน ความเห็นแก่ตัว และ ความอยากได้ หรือแม้แต่ความเอาตัวรอดนั้นมันอยู่ในสันดาน เพียงแต่ว่าจะเอามาใช้เมื่อไหร่ และโอกาสไหน
อันที่จริง เวลาคุณอยู่ในที่ทำงาน เวลาทำงานกับเพื่อนร่วมงาน หรือหัวหน้า คุณก็คงไม่ทำตัวเหมือนกับเพื่อนสมัย ม.ปลาย ที่จะด่า จะเหวี่ยง หรือแม้แต่จะงี่เง่าใส่ มันทำไม่ได้ เพราะอะไร เพราะคุณกำลังใส่หน้ากาก หน้ากากของสังคม หน้ากากที่ถูกอุปโลกว่าคุณเป็นลูกน้อง เป็นผู้จัดการ เป็นคนของสังคมที่ดี ในแวดล้อมการทำงานที่ดี

คิดว่าดีแล้วเหรอ การที่เป็นคนดีในที่ทำงาน

ก็แค่พนักงานคนหนึ่งที่อาจจะไม่ค่อยลงรอยกับหัวหน้า ไม่เป็นที่รักเหมือนพวกชอบเลียแข้งเลียขา ประจบสอพลอ ไปวันๆ คุณเองอาจจะไม่อยากทำตัวแบบพวกคนเหล่านั้น ที่วันๆไม่ทำห่าอะไร นอกจากประจบประแจง เป็นขี้ข้าของสายตาคนอื่น แต่มันได้ตำแหน่งที่ดีกว่าคุณ
บางทีคนดีๆ ก็เหนื่อยใจกับคนจำพวกนี้

แล้วมีทางเลือกไหม ถ้าไม่ติดว่ามีหนี้บัตรเครดิต หนี้บ้านที่ต้องผ่อน รถที่ต้องส่ง พ่อแม่ที่ต้องดูแล คุณคิดจะออกๆไปให้พ้นๆ จากแวดล้อมส้นตีนอย่างนั้นไหม ใครๆอยากจะทนกับการแข่งขันเอาหน้า เบื่อกับพวกขี้อิจฉา ที่ค่อยกีดกันกดดัน ไหนจะมาเจอหัวหน้าที่คอยจ้องมองดูในสิ่งที่คุณทำ ว่าจะผิดจะพลาดเมื่อไหร่

แล้วจะทำไงดี

มันมีทางเลือกไม่กี่ทาง อย่างแรกคือใส่หน้ากากกลับไป ปิดชีวิตทุกอย่างที่คนอื่นจะเข้าถึง facebook / line/ IG /Twitter อะไรก็ตาม คุณไม่จำเป็นให้คนในที่ทำงานต้องมาล่วงรู้ชีวิตความเป็นส่วนตัว หรือถ้าอยากจะมี ก็ทำเฉพาะออกมาต่างหาก รู้ไหมทำไม เพราะพวกชอบเสือกชีวิต มันมีทุกที่ แล้วคนพวกนี้ชอบเอาข้อมูลเหล่านี้ไปนินทา สร้างนิยาย เล่าไปไม่รู้จบ ฉะนั้น เริ่มที่ตัวคุณ หยุดที่ตัวคุณ
ถ้าคนในที่ทำงานถาม บอกไม่เล่น ไม่มี ไม่ใช้ จบ...

ผมไม่ได้อยากให้ทุกคนสร้างเกราะ ป้องกันตัว แต่ทุกวันนี้ คนมันเป็นแบบนี้จริงๆ

ผมเบื่อหน่ายกับแวดล้อมการทำงานที่ต่างคนต่างก้มหน้าก้มตาอยู่กับในสิ่งที่ตัวเองสนใจ แต่พอใครพลาดมาก็พร้อมที่จะลุกมากระทืบซ้ำ ส่วนตอนเราบอบชำ จะมีคนมาเห็นใจ ถามว่าเป็นไง แล้วพอรู้ก็จะเอาไปนินทาหลับหลังว่าเราอ่อนแอ เป็นจุดอ่อนขององค์กร เป็นภาระของทีม

เหมือนมันจะเข้าใจ แต่เปล่าเลย มันพร้อมทำร้ายเราเสมอแหละ คนแบบนี้

เพื่อนในที่ทำงาน มันไม่เหมือนเพื่อนที่คุณเรียนมาด้วยกัน สันดานต่างกัน และ มันก็ไม่ได้เคยผ่านวีระกรรมต่างๆนานา เหมือนสมัยวัยเด็กของคุณ

ถ้าคุณไม่มีเพื่อนสนิทสมัยชีวิต ม.ปลาย ก็อาจจะยังมี ม.ต้น ที่ยังพอคุยได้บ้าง

แต่ถ้าคุณไม่เหลือเพื่อนเลยสักคน คุณควรพิจารณาตัวแล้วว่า สังคมที่คุณอยู่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
หรือตัวคุณเองที่่มันเป็นปัญหาต่อสังคมนั้นที่ผ่านมา

ถ้าคิดไม่ออก ก่อนนอน ลองทบทวนเวลาที่ผ่านมา ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้คุณต้องเป็นแบบนี้

สังคมไม่เคยเลวหรอก แต่คนในสังคมนั้นๆต่างหากที่เลว
อย่าโทษสังคม จงโทษที่คุณยังเอาตัวไปขลุกกับคนประเภทนั้นอยู่
ถ้าเอาตัวออกมาได้ ให้เอาตัวออกมา
เหมือนคุุณอยู่ในเตาไฟ ถ้าคุณร้อน ก็ให้ออกมา เมื่อคุณรู้ว่ามันร้อน
คุณจำเป็นต้องอยู่ต่อไหม ถ้าจำเป็นต้องอยู่ ก็ต้องรู้รักษาตัวเองครับ
สุดท้าย ไม่ว่าคุณจะต้องอดทนกับสิ่งที่คุณทำอยู่ เพื่อและด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง
จงมองโลกในแง่ดี(ที่แม้บางอารมณ์มันไม่ได้อยากจะคิดแบบนั้นว่า....)
คุณยังมีชีวิตอยู่ ยังมีลมหายใจอยู่
ชีวิตเราอยู่ได้ ด้วยความหวัง และ ความปรารถนาที่จะไปข้างหน้า ไปจุดที่ดีกว่าเสมอ

ผมจะเป็นกำลังใจให้คุณ แม้วันนี้ ผมอาจจะเหนื่อยล้าลงไป

#realconceptual