C L I C K

Monday, 24 July 2017

Finding your life purpose and Passion By VAS arrange By Ten

 Finding your life purpose and Passion By VAS     : JULY 2017

“You will have more of what you want”

คุณจะมีมากกว่าที่คุณต้องการ
“When you start something, you finish it
Else, you will never understand jigsaw of Big picture”
เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งใด คุณจงทำมันให้เสร็จ
ไม่เช่นนั้นคุณไม่มีวันได้เข้าใจภาพทั้งหมดของจิ๊กซอร์ที่สำเร็จ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

“100% or nothing 0%” more practice, more success, more skill. More harder, more stronger”

“What does it mean to be 100%”

เต็มที่100% หรือ ไม่มีอะไรเลย 0%
 การฝึกฝนมากขึ้น การประสบความสำเร็จที่มากขึ้น ทักษะที่มากขึ้น ความยากที่มากขึ้น ทำให้แข็งแกร่งมากขึ้น นั้นคือความหมายของคำว่า เต็มที่ 100%
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------


รู้จักคุณค่าของการตื่นตัวและการมี Passion และ การรักตัวเอง มันคือ Winner Mindset”

ความขี้เกียจ/ผลัดวันประกันพรุ่ง /การกด Snooze นาฬิกาปลุกในตอนเช้า  
นั้นคือ “Looser Mindset”. (ความคิดของคนขี้แพ้)

มีเพียงคนขี้แพ้ /คนที่ลดคุณค่าของตัวเอง คนที่หาข้ออ้างให้ตัวเอง และ โทษสิ่งต่างๆรอบตัว แต่ไม่โทษตัวเอง
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อย่าเอาความผิดพลาดมาตั้งเป็นเสา เพราะท้ายสุดเราจะถูกเสาเหล่านั้นล้อมตัวเราและ ขังเราไว้ในกรง ซึ่งติดกับ ในกรงแห่งความผิดพลาด จงเรียนรู้ เอาบทเรียนมา พัฒนา / ปรับปรุง / แก้ไข / จงเข้มแข็งและก้าวต่อไป

--------------------------
“your success is waiting for you at the end of your comfort zone”
ความผิดพลาด อาจจะทำให้ได้การเรียนรู้ (คิดเชิงบวก ขจัดความคิดเชิงลบ) Learning by Doing….
-------------------------
ทุกช่วงชีวิต เราเรียนรู้ถูก ผิด แล้วเราได้เรียนรู้ อะไรจากสิ่งที่ได้มา มันไม่ใช่การกล่าวโทษหรือลงโทษตัวเอง”|
------------------------------
เราเลือกเกิดไม่ได้ แต่ เลือกที่จะเป็นไปได้ เริ่มต้นจาด ความเชื่อ (believe) เชื่อว่าทำได้ เชื่อว่าเป็นไปได้ เชื่อว่าสำเร็จ เชื่อว่าทุกอย่าเปลี่ยนแปลงได้
----------------------------
“Life is unfair” how and where your born?
ชีวิตไม่ยุติธรรม มันอยู่ที่คุณเกิดและเติบโตที่ใด?
“Life is Fair” because you can choose how to live?
ชีวิตนั้นยุติธรรม เพราะคุณเป็นคนเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างไร
-------------------
ถ้ารู้แต่คุณอธิบายไม่ได้ = nothing: เมื่อคุณรู้ คุณต้องอธิบายได้
รู้แล้วนำมาใช้เป็นพฤติกรรม ถ้าไม่นำความรู้ มาปรับใช้ นำมาพัฒนาตัวเอง นั้นมันสูญเปล่า (zero)
Communication คือ การขอ
Success of Failure : you asked for it!
ความสำเร็จที่ล้มเหลว : คุณเป็นคนถามถึงมัน(เอง)
Result = success   ผลที่ได้ คือ ความสำเร็จ
Result = success   ผลที่ได้ คือ ความสำเร็จ
-------------------
You cannot do what you do not want to do in your body & life
คุณไม่สามารถทำในสิ่งที่คุณไม่ต้องการทำ ทั้งร่างกายและจิตใจ
------------------------------
เปรียบเทียบ  Computer : hardware + software 
คอมพิวเตอร์ ประกอบไปด้วย ฮาร์ทแวร์(อุปกรณ์ จอ แป้นพิมพ์ CPU) และ ซ๊อฟแวร์ โปรแกรมต่างๆ
Human: Body + Mind   **** ร่างกายมนุษย์ ประกอบไปด้วย ร่างกาย และ จิตใจ
--------------------
Mind : สำนึก ประกอบไปด้วย
1. conscious mind  จิตรู้สำนึก      10%
Decision :think / felling / Talk / do
การตัดสินใจ ประกอบไปด้วย การคิด ความรู้สึก การพูด และ การกระทำ
Consist : Past + Creative + Decision  
ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านั้น ประกอบขึ้นมาจาก เหตุการณ์ในอดีต + ความสร้างสรรค์ และ การตัดสินใจ
2.Unconscious Mind จิตใต้สำนึก       90%
3. Field Mind : Visible Reality ว่าด้วยกฎของแรงดึงดูด


Communication :

คิดบวก + คิดดี + ทำดี +จิตดี + ปฏิบัติดี = Positive Ways , Good and More! (Heaven)
คิดร้าย+ ทำร้ายจิต + มองแง่ร้าย + ผลร้าย = Negative , Bad No! ,No! more (Hell)
สรุปคือ การสื่อสารกับจิตใต้สำนึก( Unconscious Mind) ในการบอกในสิ่งที่ ดี คิดบวก บอกเล่าในทุกสิ่งที่เป็น บวก เพราะ จิตของเราไม่รู้จักสิ่งที่เป็น ลบ เช่น คำว่า ไม่, อย่า ( No, not ,Don’t)
เช่น เราบอกกับตัวเองว่า  ฉันจะไม่นอนดึก   จิตใต้สำนึกเรียนรู้เพียง ฉันจะ....นอนดึก เพราะ
จิตของเราไม่ซึมซับ กับสิ่งที่เป็น ลบ  (ไม่ ,อย่า ) 
ฉะนั้น หากเราคิดเป็นคำสั่ง ลบ ผลที่ได้ จะกลายเป็น เรานอนไม่หลับ หรือ นอนดึก โดยอัตโนมัติ
ฉะนั้น หากเราคิดเป็นคำสั่ง ลบ ผลที่ได้ จะกลายเป็น เรานอนไม่หลับ หรือ นอนดึก โดยอัตโนมัติ
-------------------------------------------------------------
“Be your Own Observe” จงหัดที่จะสำรวจตัวคุณเอง จากมุมมองภายนอก
วิธีคือ ให้สมมติตัวคุณ เป็นกล้อง ที่มองจากด้านหลังของตัวเอง มองจากมุมสูงลงมาที่ตัวตน 
แล้วตั้งคำถามว่า
วิธีคือ ให้สมมติตัวคุณ เป็นกล้อง ที่มองจากด้านหลังของตัวเอง มองจากมุมสูงลงมาที่ตัวตน
แล้วตั้งคำถามว่า
Why am I ,Thinking, Feeling ,talking and doing the way I am?
ทำไมฉันถึงคิด รู้สึก พูด และ กระทำ ในแบบนั้น?
--------------
Be Unique ,Be better than yesterday
จงเป็นตัวตน เป็นอะไรที่ดีกว่าเมื่อวาน
 ------------------------------------------------------------------------
ขั้นตอนสู่ความสำเร็จในชีวิต
Now>>>> Passion>> Life Purpose>>> Vision>>>>> Life
ปัจจุบันที่เราเป็น>>>>>> แรงปรารถนา>>>>>>> เป้าหมายในชีวิต>>>>>> วิสัยทัศน์>>>> ชีวิตสมบูรณ์แบบ
Passion: แรงปรารถนานั้น ประกอบไปด้วย
How to do? ทำอย่างไร   // How to Difference? ทำให้แตกต่างอย่างไร
Love everything you do รักในทุกสิ่งที่คุณทำ
How to do? ทำอย่างไร   // How to Difference? ทำให้แตกต่างอย่างไร
Love everything you do รักในทุกสิ่งที่คุณทำ
Life Purpose: Role / Do / Talent / professional
เป้าหมายในชีวิต ประกอบไปด้วย บทบาทหน้าที่ / การกระทำ / ไหวพริบ ปฎิภาณ / ความเชี่ยวชาญ
Vision : Long term Goal / Short Term Goal
ปัจจุบันของหลายๆคน เมื่อมีPassion (แรงปรารถนา) ต่อไปคือการมีเป้าหมายในชีวิต และจากนั้นคือวิสัยทัศน์โดยจะมีความสำเร็จทั้งในระยะสั้น (Short Term Goal) และความสำเร็จในระยะยาว (Long term Goal)

----------------------
Passion make “Creative” not focus on Competitive Focus man behind products
แรงปรารถนาจะทำให้เกิดความสร้างสรรค์ อย่าไปใส่ใจตรงที่คู่แข่งของคุณ, มุ่งไปที่ตัวบุคคล มากกว่า ตัวสินค้า
ยกตัวอย่าง หากคุณใส่ใจแต่พัฒนาตัวเอง ให้ดีกว่าเมื่อวาน ดีกว่าเดือนที่แล้ว ปีที่แล้ว เพิ่งการพัฒนาศักยภาพในทุกด้าน คุณไม่จำเป็นต้องไปดูคู่แข่ง เพราะการไปสนใจคู่แข่ง จะทำให้คุณขาดความต่อเนื่องในการความมุ่งมั่นพัฒนาตนเอง เพราะถ้าคุณมุ่งมั่นพัฒนาตัวเองต่อเนื่อง คุณจะทิ้งระยะห่างคู่แข่งคุณไปเรื่อยๆ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องหันกลับมาดูคู่แข่งอีกต่อไป…….
Product + Philosophy + story telling = Branding
(Philosophy is Vision)
-----------------------------------------------
If it not broken don’t fix it, if it is not broken make it better
ถ้ามันไม่พัง ไม่ต้องไปซ่อมมัน แต่ถ้ามันไม่พังก็จงทำให้มันดีกว่า
Relationship :Emotion >>> Communication >>> Relationship >>> Stress
ความสัมพันธ์
เริ่มต้นที่ อารมณ์ >>>> การสื่อสาร >>>> ความสัมพันธ์ >>> ความตึงเครียด (สุขภาพจิต+กาย)
ยกตัวอย่าง เช่น
อารมณ์ดี >>พูดในสิ่งดีๆ >>>>สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวเองและคนรอบข้าง >>> ส่งเสริมสภาพจิตใจและกายในทางที่ดี
ในทางกลับกัน
อารมณ์ไม่ดี >>พูดในสิ่งร้ายๆ แง่ลบ >>>>สร้างความสัมพันธ์ที่แย่กับตัวเองและคนรอบข้าง >>>บั่นทอนสุขภาพจิตใจและกาย นำไปสู่ความเครียด >>>ส่งผลและก่อให้เกิดอาการป่วยทั้งกายและจิต
 และท้ายที่สุดคือ สาเหตุเหล่านั้นก็นำมาสู่ สาเหตุของการตาย
 และท้ายที่สุดคือ สาเหตุเหล่านั้นก็นำมาสู่ สาเหตุของการตาย
Conscious Mind & Unconscious Mind จิตรู้สำนึกและ จิตใต้สำนึก
ทั้งสองล้วนแต่สื่อสารกัน ทั้งสองทาง เข้าหากันตลอดเวลา การที่เราบ่น ตำหนิ มีความเศร้า หดหู่ จะสร้างรูปแบบการจดจำในด้านไม่ดี และถูกฝังในUnconscious mind (จิตใต้สำนึก) และ วันหนึ่ง  Unconscious mind(จิตใต้สำนึก) ก็จะสั่งกลับมาที่ Conscious Mind (จิตรู้สำนึก)ให้กระทำบางอย่างออกมา
SEE… เหตุการณ์สำคัญที่มีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง  Significant Emotional Experience
Relationship
1.I forgive you ฉันให้อภัยคุณ
2.I forget it  ฉันจะลืมมันเสีย
3.Remember  จะจดจำเรื่องราวดีๆ
4.Love and Apply  เรียนรู้จักรักและปรับเข้าตัว
5.Seek forgiven ค้นหาการให้อภัย
Decision Health ประกอบไปด้วย Goal / Intention / Outcome (จุดหมาย / ความตั้งใจ / ผลลัพธ์)
การควบคุมอารมณ์ บางครั้งอารมณ์ของเรานั้น ขึ้นๆ ลงๆ ไม่สม่ำเสมอ ทั้งนี้ปัจจัยที่ทำให้อารมณ์ไม่นิ่ง อาจจะเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งภายในและภายนอก
สรุป อารมณ์ที่นิ่ง จะทำอะไรก็ได้ และสามารถทำทุกอย่างได้อย่างสม่ำเสมอ 
แต่ถ้าคุณอารมณ์ไม่นิ่ง คุณจะไม่สม่ำเสมอ คุณจะไม่มีตัวตน คุณไม่รู้จักโต  
ความสม่ำเสมอต่อเนื่องจะกลายเป็นการพัฒนา การฝึกอย่างสม่ำเสมอ ซ้ำๆ เสมอๆ เช่น การมาทำงานตรงต่อเวลา สม่ำเสมอๆ คุณจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง เป็นต้น
แต่ถ้าคุณอารมณ์ไม่นิ่ง คุณจะไม่สม่ำเสมอ คุณจะไม่มีตัวตน คุณไม่รู้จักโต  
ความสม่ำเสมอต่อเนื่องจะกลายเป็นการพัฒนา การฝึกอย่างสม่ำเสมอ ซ้ำๆ เสมอๆ เช่น การมาทำงานตรงต่อเวลา สม่ำเสมอๆ คุณจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง เป็นต้น
ความไม่สม่ำเสมอนั้น พึ่งพาไม่ได้ สิ่งที่ไม่สม่ำเสมอ นั้น คือ อารมณ์ นั้นเอง  ………
สิ่งที่ทำได้นั้นคือ ห้ามโกรธ ห้ามกลัว ไม่ต้องมีที่ส่วนหนึ่งส่วนใดในร่างกาย เก็บอารมณ์เหล่านั้นเอาไว้ นั้นคือ ความตระหนักรู้ (Conscious Mind) แต่ไม่ใช่ความกลัวในสิ่งเหล่านั้น
----------------
เราควรที่จะLock ความรู้สึกเหล่านั้น และ ช่วยเหลือผู้คนไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะจากโลกนี้ไป
1.ความสุข Happy
2.ความรัก Love
3.ความกล้าหาญ ความมุ่งมั่น มุมานะ Brave / Courage
4.เข้าประเด็น จุดมุ่งหมาย Focus 
5.เปิดใจ
----------------
เราควรที่จะLock ความรู้สึกเหล่านั้น และ ช่วยเหลือผู้คนไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะจากโลกนี้ไป
1.ความสุข
1.ความสุข Happy
2.ความรัก Love
3.ความกล้าหาญ ความมุ่งมั่น มุมานะ Brave / Courage
4.เข้าประเด็น จุดมุ่งหมาย Focus
5.เปิดใจ
เราทุกคนล้วนต้องทำทุกอย่าง 2 ครั้ง เสมอ
1.ทำในความคิด คือ การคิดทำ แต่ยังไม่ได้ลงมือปฏิบัติ
2.ทำความคิด เป็นการลงมือทำ คือ การนำเอาความคิดทำมาปฏิบัติให้เกิดผลจริง 
1.ทำในความคิด คือ การคิดทำ แต่ยังไม่ได้ลงมือปฏิบัติ
2.ทำความคิด เป็นการลงมือทำ คือ การนำเอาความคิดทำมาปฏิบัติให้เกิดผลจริง
---------------
Visualization Consist with Imagination and Creative
การสร้างภาพนามธรรม ประกอบไปด้วย ภาพ และการสร้างสรรค์
--------------
บทสรุปสุดท้าย
จงขอบใจทุกเหตุการณ์ในชีวิตที่ผ่านเข้ามา สอนให้รู้จัก และเรียนรู้ อารมณ์ที่เกิดขึ้น และที่ผ่านไป ล้วนแต่เป็นประสบการณ์ที่ดีและร้าย สอนให้เราได้เข้าใจ จากนี้ไป บทเรียนที่ได้ จะทำให้เราแยกออกว่าสิ่งใดนั้น คือเพียงอารมณ์ และ สิ่งที่จะขัดขวางไม่ให้เรา เจริญก้าวหน้า หรือ ไปสู่จุดหมายได้.
-------------