ถ้าคุณขายของONLINE ที่ใช้หนังหน้าตัวเอง และใช้ facebook account ส่วนตัวในการpost ขายของบางครั้งการใช้วิวาทะด้วยอารมณ์ ที่ขาดสติ เพียงชั่ววูบ ผลที่ตามมา คือยี่ห้อที่ตัวเองสร้างมากับมืออาจจะพินาศ เพียงข้ามคืน หรือ เพียงไม่กี่ชั่วโมง
เรื่องที่ผมพูดมานี้ ฟังดูเหมือนเรื่องใหญ่ และ ดูเกินความจริง แต่จริงๆ แล้ว มันไม่ได้เกินความจริงเลยประเด็นที่ผมจะพูดในวันนี้คือ การรับมือกับอารมณ์ และ สถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น
บางครั้ง คนที่เป็นเจ้าของfacebook โดยใช้ account ส่วนตัวกับการขายของ เป็นอันเดียวกัน
สิ่งที่ตามมาคือ ใดๆที่คุณพิมพ์ คลิ๊ป หรือ แสดงสัญญาลักษณ์บ้างอย่างออกไป ล้วนแต่มีผลต่อคุณ ไม่ทางตรงก็ทางออ้อม ฉะนั้น ผมขอยกตัวอย่างคำพูดของ แร๊ฟเปอร์ที่ผมชอบ :กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่
การเอาเรื่องใดๆมาลงโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค
แปลว่าต้องเตรียมใจไว้แล้วว่าเรื่องนี้ให้คนเสือกได้.. ไม่มีคำว่าพื้นที่ส่วนตัวแถวนี้#คิดก่อนพิมพ์
ในมุมมองของนักการตลาด ถือว่าเป็นความผิดพลาด เพราะคุณขายของ และ ใช้เรื่องส่วนตัว หากคุณtake side ด้านการเมือง ไปวิจารณ์ หรือ ตำหนิใครต่อใคร นั้นอาจจะเสียลูกค้า อีกกลุ่มก็ได้
ประเด็นสำคัญคือ บางคนเอาอารมณ์ตัวเอง ใช้facebook ที่ทำค้าขาย เอาไปด่าคนอื่น ถึงแม้จะทำไปด้วยอารมณ์ก็ตามเถอะ คู่กรณีคุณอาจจะเป็นเพื่อน หรือคนที่คุณสนิท แต่คนอื่นๆ ที่ติดตามคุณ เค้าไม่มารู้หรอก ว่าคุณไปโกรธ โมโหอะไรมา คุณไปปริ๊ดๆๆ ใส่อีกฝ่าย คำถามคือ ใครดูแย่ในสายตาของคนหมู่มากครับ
คุณคิดดูนะ ถ้าลูกค้าติดตาม เออ ..เฮ้ย ดูสิ เจ้าของร้านคนนี้ ดูเวลามันด่่าสิ นี้ขนาดเพื่อนมันนะ มันยังด่าขนาดนี้ แล้วถ้าฉันเป้นลูกค้ามัน โอนเงินช้า บ่นนิด ตำหนิ เคลมของ มันไม่ด่ากันบ้านพังเลยเหรอ
แล้วเชื่อไหมว่า ข่าวร้าย ข่าวเสียหาย ข่าวด้านลบๆ หรือแม้แต่ดราม่านั้น แพร่ไปไกล ไปเร็ว และแก้ไขนานกว่าจะกลับมาดีเหมือนปรกติ ว่าง่ายๆคือ สร้างมาเป็นเดือนๆ ปีๆ แต่มาพังเพราะอารมณ์ เพียงแป๊ปเดียว เหมือนสร้างปราสาททรายแล้วเจอน้ำทะเล คลื่นพัดทีเดียว ตูม!!! หายเรียบ
เอาหล่ะ จะทำยังไงดี ?!?!?
อยากระบาย อยากเล่นอะไร กรุณาสร้างแยกต่างหากครับ งานก็งาน ชีวิตส่วนตัวก็ส่วนตัวไป คนบางประเภทชอบเอาสองอย่างมารวม เล่นกับงาน ในเรื่องเดียวกัน นี้ยังแสดงให้เห็นบางอย่างว่า คนที่ใช้facebook ในการค้าขาย กับเรื่องส่วนตัว แล้วก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องภาพลักษณะตัวเองเท่าไหร่ ก็คล้ายๆคนที่เปิดร้านขายของ แล้วเอาเงินในลิ้นชักไปซื้อของใช้ส่วนตัว แทนที่จะแยกเงินในลิ้นชัก เงินส่วนตัวก็ส่วนตัว เงินค้าขายในร้านก็ในร้าน อย่าใช้มั่วเอามาปนกัน หลายคนทำกิจการล้ม เพราะเอาเงินทำธุรกิจมาใช้เป้นเงินส่วนตัวครับ
แยกให้ออกอะไรคือ ความรู้สึก และ สติ
ถ้าคุณแยกไม่ออกระหว่างเหตุผล และ อารมณ์ ผมขอแนะนำให้คิดเยอะๆก่อนจะกดส่งข้อความ ระลึกเสมอว่าคนที่ติดตามอ่านคุณ มีคุณเป็นไอดอล หรือ คนติดตาม เขาคงไม่มาบอกเตือนคุณ ในการกระทำที่ไม่ดี มีแต่คนจะเอาไปซุบซิบ นินทามากกว่า
อย่าคิดว่า ไม่เป็นไร ลบได้ แค่นี้เอง ระลึกเสมอว่า คุณสามารถcapture คนอื่นได้ ก็ให้แปลว่า คนอื่นๆ ก็พร้อมที่จะcapture คุณได้เหมือนกัน หลักฐานมีได้ทุกเมื่อ ถ้าคุณพลาดนั้นอาจหมายถึงความเสียหายหลายๆอย่างที่จะตามมา
No comments:
Post a Comment