“อุ้ย! ตัวนี้สวยอ่ะ เริดค่า ของมันต้องมี”
“หู้ยยยย รองเท้าแบบนี้ไง อยากได้มานานแล้ว”
“กรี๊ดดดด กรีดร้องค่ะขุ่นแม่ ลิปสติกสีนี้ยังไม่มีนี่นา ต้องจัดซะหน่อยละ”
“ว้าว! เว็บนี้สินค้าเซลล์ 50 เปอร์เซ็นต์แน่ะ พลาดไม่ได้ ต้องช้อป!” ฯลฯ
คุณกำลังมีอาการประมาณนี้หรือเปล่า มือไม้สั่น หัวใจเต้นระริก รู้สึกควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ รู้ตัวอีกทีกดช้อปไปแล้วหลายชิ้น เรียกว่าบ้าช้อปปิ้งออนไลน์ขั้นเทพ วันไหนไม่ได้เข้าไปกดช้อปเลือกของลงตระกร้า วันนั้นถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ! สูญเสียไปเท่าไหร่แล้วกับคำว่า “ของมันต้องมี!”
ลองเช็คตัวเองดูดี ๆ ว่าคุณกำลังเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังบ้าช้อปปิ้งออนไลน์แบบระห่ำขนาดนี้มั้ย อาการก็จะประมาณว่า ต้องเข้าไปช้อปบ่อย ๆ คอยเช็คสินค้าใหม่ สินค้าลดราคาอยู่เรื่อย ๆ จนถึงขั้นต้องเข้าไปช้อปทุกวัน วันไหนไม่ได้ช้อปรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว!! เงินไม่มีก็จะไปยืมมาช้อป ถึงขั้นรูดบัตรเครดิต กู้เงินล่วงหน้าในอนาคตมาใช้ก่อนแล้วค่อยผ่อนทีหลัง ยอมอดอาหารจานโปรด ขนมนมเนยที่ชอบ เพื่อให้ได้ช้อปสักชิ้นเพื่อความสบายใจ รู้ตัวอีกที อ้าว! นี่ตรูซื้ออะไรมานักวะเนี่ย เอ...เกิดอะไรขึ้นกับเรากันนะ ทำไมถึงบ้าช้อปปิ้งออนไลน์ขนาดนี้ ถึงขั้นทนไม่ได้เลยถ้าได้เห็นป้ายลดราคา ป้ายซื้อหนึ่งแถมสอง อะไรทำนองนั้น ฯล แม้อยากหยุดแต่ก็หยุดไม่ได้สักที
ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ แล้วนะ รู้ตัวหรือไม่!? เพราะคุณกำลังเข้าข่ายเป็นโรค...“เสพติดการช้อปปิ้ง” หรือภาษาทางการแพทย์เรียกว่าโรค “Shopaholic” ยังไงล่ะ ถ้าจะแปลให้ตรงตัวก็คือ “เป็นคนที่ชอบที่ซื้อของมากจนหยุดไม่ได้” นั่นเอง ซึ่งนี่เป็นระยะเริ่มต้นเท่านั้นนะ ถ้าอาการรุนแรงมากขึ้นก็จะถึงขั้น “Compulsive buying disorder”... เชียวล่ะ โอ้ว! แม่เจ้า ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นไปได้นะ ทำไมรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้จ่ายเงินออกไป จิตใจที่ร้อนรุ่มจะรู้สึกสงบนิ่งลงเมื่อได้เสียเงินและได้ของที่อยากได้ (หรือไม่ได้อยากได้เท่าไหร่) มาไว้ในครอบครอง ทั้งๆ ที่หลายต่อหลายครั้ง ของเหล่านั้นไม่ได้จำเป็นต่อชีวิตเลย และเอาจริง ๆ แล้วก็เป็นของฟุ่มเฟือยซะด้วยซ้ำ นั่นก็เพราะว่า “สมอง” ของเรากำลังหลั่งสารเคมีออกมาประมาณ 3 ชนิดด้วยกัน นั่นก็คือ
1. สาร “โดปามีน” (Dopamine) ซึ่งเป็นสารเคมีที่ทำให้เรารู้สึกมีความสุข รู้สึกพึงพอใจ
2. สาร “เอ็นดอร์ฟิน” (Endorphins) ซึ่งเป็นสารเคมีที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ไปจนถึงช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของร่างกายได้ และสารที่
3. “เซโรโทนิน” (Serotonin) เป็นสารที่ช่วยลดความเครียด และทำให้เราอารมณ์ดีนั่นเอง*
ทุกครั้งที่คุณช้อปปิ้งออนไลน์ (หรือแม้แต่ช้อปในห้างสรรพสินค้า หรือใน Shop ต่าง ๆ ก็เถอะ) และบอกกับตัวเองว่า “ฉันกำลังมีความสุข” สมองจะหลั่งสาร 3 ชนิดนี้ออกมาทันที และสมองก็จะเกิดการจำว่า “ช้อปปิ้งออนไลน์ทุกครั้ง มีความสุขทุกครั้ง” เลยทำให้คุณทำพฤติกรรมซ้ำ ๆ เพื่อให้ตัวเองได้พบความสุขซ้ำ ๆ จริง ๆ คุณอาจไม่ได้เสพติดการซื้อของพวกนั่นหรอกนะ แต่คุณกำลังเสพติดความสุขต่างหาก ต้องการให้ตัวเองได้ลิ้มรสความสุขนั้นวนไปวนมา ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันเป็นความสุขเพียงแค่ชั่วครู่ชั่วยามก็ตาม
ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ มักจะไปขัดขวางความก้าวหน้าของคุณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเวลาที่เสียไปจากการนั่งเลือกสินค้า แทนที่คุณจะเอาไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์กว่า ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การจัดการงานบ้าน การได้ทำงานอดิเรกที่ชอบ ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ความสัมพันธ์กับคนรัก เพราะการซื้อของอยู่บ่อย ๆ นั้นแน่นอนว่าแฟนคุณไม่ชอบหรอก อาจจะทำให้คุณมีปัญหากับแฟนแน่นอน และที่หนักไปกว่านั้น เงินที่คุณจ่ายออกไปอาจจะทำให้คุณชักหน้าไม่ถึงหลัง จนถึงขั้นเป็นหนี้เป็นสินได้ และจากนั้นก็ส่งผลให้คุณเกิดภาวะเครียด คิดอะไรไม่ออกในที่สุด ซึ่งผลพวงเหล่านี้จะไปลดทอนประสิทธิภาพในการทำงานและการใช้ชีวิตของคุณลง ทำให้คุณไม่ก้าวหน้าและยากที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตนั่นเอง
จากการศึกษาได้พบว่า ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก มีผู้อยู่ในภาวะเสพติดความสุขจากการช้อปปิ้งออนไลน์นี้ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ด้วยกัน และในจำนวน 5 เปอร์เซ็นต์ เป็นผู้หญิงถึงร้อยละ 80 และสินค้าที่ซื้อกันนั้นก็คือ เสื้อผ้า และเครื่องแต่งกายนั่นเอง**
ซึ่งถ้าคุณอยากแก้ไขพฤติกรรมนี้ให้ได้ ก็ต้องหมั่นฝึกตัวเองบ่อย ๆ ด้วยความตั้งใจ และตั้งสติทุกครั้งก่อนเข้าไปช้อปปิ้งออนไลน์ โดยเริ่มปฏิบัติ 3 ข้อหลัก ๆ ดังนี้
1. ทำบัญชีส่วนการช้อปปิ้งเอาไว้ จะทำให้คุณเห็นว่า คุณได้สูญเสียเงินไปเท่าไหร่แล้วกับคำว่า “ของมันต้องมี” ซึ่งแน่นอนว่า ยอดรวมของมันจะทำให้คุณต้องตกใจ!
2. เช็กให้ชัวร์หลาย ๆ รอบก่อนตัดสินใจซื้อ ว่าสินค้าที่เรากำลังจะช้อปนั้นเรามีแล้วหรือยัง และเราจำเป็นต้องใช้มันจริง ๆ หรือเปล่า? หรือแค่สะสมรอวันบริจาคเท่านั้น
3. หากิจกรรมอื่น ๆ ที่ชอบทำ กิจกรรมที่ทำให้เรามีความสุขนั้นมีอยู่มากมาย และทำได้ง่าย ๆ อาทิเช่น เล่นกีฬาที่ชอบ อ่านหนังสือดีมีประโยชน์ ทำอาหาร เป็นต้น
จิตแพทย์จาก “มหาวิทยาลัยมินนิโซตา” สหรัฐอเมริกา ได้คิดค้นยารักษาโรคเสพติดความสุขจากการช้อปปิ้ง (Shopaholic) ขึ้นมา ซึ่งตัวยาดังกล่าวจะมีลักษณะคล้ายยาที่ในวงการแพทย์ใช้รักษาผู้ป่วยที่เป็นโรค “อัลไซเมอร์” หรือ “โรคความจำเสื่อม” โดยจะไปช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองให้สร้างพฤติกรรมที่ต่างไปจากเดิม ๆ ที่เคยทำ และไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ*** แต่อย่าให้ถึงขั้นต้องใช้ยารักษาเลยนะ มาตั้งใจ ตั้งสติ ปรับพฤติกรรมใหม่ในการช้อปฯ กันดีกว่า รับรองว่าจะมีเงินเหลือเก็บอีกเยอะ
อ้างอิง
*https://www.nicetofit.com/สารแห่งความสุข/
**http://www.thaihealth.or.th/partnership/Content/6880-โรคเสพติดการช็อปปิ้ง.html
***https://www.wegointer.com/2016/02/shopaholic/
****https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTdkVEoRqaEdiygARHijJZxlBcmRyIjkE24b6gx3hGtQDnHH4R5
*****https://recoveringshopaholicblog.files.wordpress.com/2016/03/shopaholic-words.jpg?w=584
******https://media.giphy.com/media/d3mmdNnW5hkoUxTG/giphy.gif
No comments:
Post a Comment