C L I C K

Friday, 6 September 2019

รู้ไหม.....ว่าคุณอาจจะกำลังเป็นโรคShopaholic !!


“อุ้ย! ตัวนี้สวยอ่ะ เริดค่า ของมันต้องมี”
“หู้ยยยย รองเท้าแบบนี้ไง อยากได้มานานแล้ว”
“กรี๊ดดดด กรีดร้องค่ะขุ่นแม่ ลิปสติกสีนี้ยังไม่มีนี่นา ต้องจัดซะหน่อยละ”
“ว้าว! เว็บนี้สินค้าเซลล์ 50 เปอร์เซ็นต์แน่ะ พลาดไม่ได้ ต้องช้อป!” ฯลฯ 


คุณกำลังมีอาการประมาณนี้หรือเปล่า มือไม้สั่น หัวใจเต้นระริก รู้สึกควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ รู้ตัวอีกทีกดช้อปไปแล้วหลายชิ้น เรียกว่าบ้าช้อปปิ้งออนไลน์ขั้นเทพ วันไหนไม่ได้เข้าไปกดช้อปเลือกของลงตระกร้า วันนั้นถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ! สูญเสียไปเท่าไหร่แล้วกับคำว่า “ของมันต้องมี!” 
ลองเช็คตัวเองดูดี ๆ ว่าคุณกำลังเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังบ้าช้อปปิ้งออนไลน์แบบระห่ำขนาดนี้มั้ย อาการก็จะประมาณว่า ต้องเข้าไปช้อปบ่อย ๆ คอยเช็คสินค้าใหม่ สินค้าลดราคาอยู่เรื่อย ๆ จนถึงขั้นต้องเข้าไปช้อปทุกวัน วันไหนไม่ได้ช้อปรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว!! เงินไม่มีก็จะไปยืมมาช้อป ถึงขั้นรูดบัตรเครดิต กู้เงินล่วงหน้าในอนาคตมาใช้ก่อนแล้วค่อยผ่อนทีหลัง ยอมอดอาหารจานโปรด ขนมนมเนยที่ชอบ เพื่อให้ได้ช้อปสักชิ้นเพื่อความสบายใจ รู้ตัวอีกที อ้าว! นี่ตรูซื้ออะไรมานักวะเนี่ย เอ...เกิดอะไรขึ้นกับเรากันนะ ทำไมถึงบ้าช้อปปิ้งออนไลน์ขนาดนี้ ถึงขั้นทนไม่ได้เลยถ้าได้เห็นป้ายลดราคา ป้ายซื้อหนึ่งแถมสอง อะไรทำนองนั้น ฯล แม้อยากหยุดแต่ก็หยุดไม่ได้สักที 
ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ แล้วนะ รู้ตัวหรือไม่!? เพราะคุณกำลังเข้าข่ายเป็นโรค...“เสพติดการช้อปปิ้ง” หรือภาษาทางการแพทย์เรียกว่าโรค “Shopaholic” ยังไงล่ะ ถ้าจะแปลให้ตรงตัวก็คือ “เป็นคนที่ชอบที่ซื้อของมากจนหยุดไม่ได้” นั่นเอง ซึ่งนี่เป็นระยะเริ่มต้นเท่านั้นนะ ถ้าอาการรุนแรงมากขึ้นก็จะถึงขั้น “Compulsive buying disorder”... เชียวล่ะ โอ้ว! แม่เจ้า ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นไปได้นะ ทำไมรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้จ่ายเงินออกไป จิตใจที่ร้อนรุ่มจะรู้สึกสงบนิ่งลงเมื่อได้เสียเงินและได้ของที่อยากได้ (หรือไม่ได้อยากได้เท่าไหร่) มาไว้ในครอบครอง ทั้งๆ ที่หลายต่อหลายครั้ง ของเหล่านั้นไม่ได้จำเป็นต่อชีวิตเลย และเอาจริง ๆ แล้วก็เป็นของฟุ่มเฟือยซะด้วยซ้ำ นั่นก็เพราะว่า “สมอง” ของเรากำลังหลั่งสารเคมีออกมาประมาณ 3 ชนิดด้วยกัน นั่นก็คือ
1. สาร “โดปามีน” (Dopamine) ซึ่งเป็นสารเคมีที่ทำให้เรารู้สึกมีความสุข รู้สึกพึงพอใจ
2. สาร “เอ็นดอร์ฟิน” (Endorphins) ซึ่งเป็นสารเคมีที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ไปจนถึงช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของร่างกายได้ และสารที่
3. “เซโรโทนิน” (Serotonin) เป็นสารที่ช่วยลดความเครียด และทำให้เราอารมณ์ดีนั่นเอง* 
ทุกครั้งที่คุณช้อปปิ้งออนไลน์ (หรือแม้แต่ช้อปในห้างสรรพสินค้า หรือใน Shop ต่าง ๆ ก็เถอะ) และบอกกับตัวเองว่า “ฉันกำลังมีความสุข” สมองจะหลั่งสาร 3 ชนิดนี้ออกมาทันที และสมองก็จะเกิดการจำว่า “ช้อปปิ้งออนไลน์ทุกครั้ง มีความสุขทุกครั้ง” เลยทำให้คุณทำพฤติกรรมซ้ำ ๆ เพื่อให้ตัวเองได้พบความสุขซ้ำ ๆ จริง ๆ คุณอาจไม่ได้เสพติดการซื้อของพวกนั่นหรอกนะ แต่คุณกำลังเสพติดความสุขต่างหาก ต้องการให้ตัวเองได้ลิ้มรสความสุขนั้นวนไปวนมา ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันเป็นความสุขเพียงแค่ชั่วครู่ชั่วยามก็ตาม 
ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ มักจะไปขัดขวางความก้าวหน้าของคุณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเวลาที่เสียไปจากการนั่งเลือกสินค้า แทนที่คุณจะเอาไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์กว่า ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การจัดการงานบ้าน การได้ทำงานอดิเรกที่ชอบ ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ความสัมพันธ์กับคนรัก เพราะการซื้อของอยู่บ่อย ๆ นั้นแน่นอนว่าแฟนคุณไม่ชอบหรอก อาจจะทำให้คุณมีปัญหากับแฟนแน่นอน และที่หนักไปกว่านั้น เงินที่คุณจ่ายออกไปอาจจะทำให้คุณชักหน้าไม่ถึงหลัง จนถึงขั้นเป็นหนี้เป็นสินได้ และจากนั้นก็ส่งผลให้คุณเกิดภาวะเครียด คิดอะไรไม่ออกในที่สุด ซึ่งผลพวงเหล่านี้จะไปลดทอนประสิทธิภาพในการทำงานและการใช้ชีวิตของคุณลง ทำให้คุณไม่ก้าวหน้าและยากที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตนั่นเอง

จากการศึกษาได้พบว่า ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก มีผู้อยู่ในภาวะเสพติดความสุขจากการช้อปปิ้งออนไลน์นี้ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ด้วยกัน และในจำนวน 5 เปอร์เซ็นต์ เป็นผู้หญิงถึงร้อยละ 80 และสินค้าที่ซื้อกันนั้นก็คือ เสื้อผ้า และเครื่องแต่งกายนั่นเอง**
ซึ่งถ้าคุณอยากแก้ไขพฤติกรรมนี้ให้ได้ ก็ต้องหมั่นฝึกตัวเองบ่อย ๆ ด้วยความตั้งใจ และตั้งสติทุกครั้งก่อนเข้าไปช้อปปิ้งออนไลน์ โดยเริ่มปฏิบัติ 3 ข้อหลัก ๆ ดังนี้ 
1. ทำบัญชีส่วนการช้อปปิ้งเอาไว้ จะทำให้คุณเห็นว่า คุณได้สูญเสียเงินไปเท่าไหร่แล้วกับคำว่า “ของมันต้องมี” ซึ่งแน่นอนว่า ยอดรวมของมันจะทำให้คุณต้องตกใจ! 
2. เช็กให้ชัวร์หลาย ๆ รอบก่อนตัดสินใจซื้อ ว่าสินค้าที่เรากำลังจะช้อปนั้นเรามีแล้วหรือยัง และเราจำเป็นต้องใช้มันจริง ๆ หรือเปล่า? หรือแค่สะสมรอวันบริจาคเท่านั้น 
3. หากิจกรรมอื่น ๆ ที่ชอบทำ กิจกรรมที่ทำให้เรามีความสุขนั้นมีอยู่มากมาย และทำได้ง่าย ๆ อาทิเช่น เล่นกีฬาที่ชอบ อ่านหนังสือดีมีประโยชน์ ทำอาหาร เป็นต้น 
จิตแพทย์จาก “มหาวิทยาลัยมินนิโซตา” สหรัฐอเมริกา ได้คิดค้นยารักษาโรคเสพติดความสุขจากการช้อปปิ้ง (Shopaholic) ขึ้นมา ซึ่งตัวยาดังกล่าวจะมีลักษณะคล้ายยาที่ในวงการแพทย์ใช้รักษาผู้ป่วยที่เป็นโรค “อัลไซเมอร์” หรือ “โรคความจำเสื่อม” โดยจะไปช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองให้สร้างพฤติกรรมที่ต่างไปจากเดิม ๆ ที่เคยทำ และไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ*** แต่อย่าให้ถึงขั้นต้องใช้ยารักษาเลยนะ มาตั้งใจ ตั้งสติ ปรับพฤติกรรมใหม่ในการช้อปฯ กันดีกว่า รับรองว่าจะมีเงินเหลือเก็บอีกเยอะ 
อ้างอิง
*https://www.nicetofit.com/สารแห่งความสุข/
**http://www.thaihealth.or.th/partnership/Content/6880-โรคเสพติดการช็อปปิ้ง.html
***https://www.wegointer.com/2016/02/shopaholic/
****https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTdkVEoRqaEdiygARHijJZxlBcmRyIjkE24b6gx3hGtQDnHH4R5 
*****https://recoveringshopaholicblog.files.wordpress.com/2016/03/shopaholic-words.jpg?w=584 
******https://media.giphy.com/media/d3mmdNnW5hkoUxTG/giphy.gif

No comments:

Post a Comment