เรื่องธุรกิจเครือข่าย
หลายคนต้องเคยเจอ ด้วยเหตุผลที่มีคนทำจำนวนมาก หลายคนเจอ พบ ประสบ กับสิ่งที่คล้ายๆกันคือ
มันเหมือนลัทธิ หรือ โลก อีกใบของคนกลุ่มๆนึง
กาลครั้งนึง ผมเคยไปร่วมทำธุรกิจเครือข่าย หรือ ขายตรงที่เราๆท่านๆรู้จัก ถามว่าสินค้าดีไหม ก็ดีนะ ธุรกิจการจ่ายผลประโยชน์ดีไหม ก็ดี แต่ประเด็นที่ทุกคนไม่ชอบคือ ทำไมต้องซื้อของยี่ห้อนี้ตลอด ทำไมต้องทำแต้ม ทำยอด ทำไมต้องไปประชุม ทำไมต้องสัมมนา ทำไมต้องพาเพื่อนฝูง ญาติพี่น้องมาสมัคร และคำถามอีกกเป็นพันทำไมก็เข้ามาในหัว
ถามว่าจะมีสักกี่คน ที่ไปยืนพูดบนเวที ที่คนมาฟังต้องซื้อบัตรมาฟัง โดยคนที่ชวนคุณมาฟัง จะอ้างว่าคนที่พูดจะมาช่วยปลุกแรงบันดาลใจของคุณ จะเปิดโลกธุรกิจ และที่ขาดไม่ได้ ต้องขอขอบคุณผู้เปิดโอกาสทางธุรกิจ (แนะนำชื่อupline) ให้ตายเถอะ เวลากรอกใบสมัคร จ่ายค่าสมัคร เวลามาประชุม ค่าเดินทาง เงินที่ซื้อสินค้า upline มันมาช่วยไหม เปล่าเลย เงินเราทั้งนั้น
หลังจากผมใช้เวลากว่า หกเดือนในธุรกิจดังกล่าว จึงได้ข้อสรุปดังนี้
1.เราเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคแบบสมบูรณ์แบบไม่ได้ หมายถึง ใช้ทุกสิ่ง ผลิตภัณฑ์ทุกอย่างของเครือข่ายไม่ได้หรอก
2. ธุรกิจนี้ คือการหาผลไปยังเหตุ หมายถึง upline ระดับสูง จะโชว์ภาพความสำเร็จ เช่น รถหรู การท่องเที่ยว การใช้ชีวิต (ซึ่งนั้นคือผล)และลากมาโยงถึงว่าเหตุ คือ ธุรกิจเครือข่าย จึงเป็นที่มาของการได้มาของสิ่งเหล่านั้น
3. ผมเสียเพื่อนดีๆ และคนรู้จัก เหมือนพอรู้ว่าผมทำธุรกิจเครือข่าย ก็คล้ายๆกับผมไปเข้าลัทธิจานบินย่านปทุมธานี พอไปเข้ากลุ่มไหนก็แตกกระเจิงกันหมด
กล่าวง่ายๆคือ มันไม่เหมาะกับคนที่คิดนอกกรอบ คนที่คิดว่าเวลาเท่าๆกัน สามารถทำอะไรที่มากกว่าการพาคนไปประชุม และการหาเลี้ยงชีพที่สมฐานะ
ผมให้คำแนะนำสำหรับคนที่คิดว่าอยากทำ ธุรกิจเครือข่ายนะครับ
- ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ชอบทำอะไรซ้ำๆ พูดเรื่องเดิมๆ เล่าเรื่องเดิมให้หลายๆคนฟังบ่อยๆ อย่าทำ
- ถ้าคุณเป็นคนใจไม่เย็นพอ ที่จะฟังคำโต้แย้ง คำปฎิเสธ คำคัดค้าน จากทุกคนที่รู้จัก ก็ อย่าทำ
- ถ้าคิดว่ามันคืออาชีพสุดท้ายของชีวิต งาน หรือ ภารกิจ สุดท้าย ที่บางคนบอกว่า เหนื่อยชั่วคราว สบายชั่วโคตร จงอย่าเชื่อ เพราะ ถ้ามันสบายจริงๆ upline ที่อยู่ในธุรกิจนี้ ทุกวันนี้ มันไม่ต้องมาพูดบนเวทีหรอก
- จงดูคนที่ทำธุรกิจนี้ก่อนคุณ ดูว่าเค้าเหนื่อยแค่ไหน แล้วเค้าสำเร็จแค่ไหน กับเพื่อนอีกคนที่ทำธุรกิจส่วนตัว จงเปรียบเทียบกัน และใช้หัวสมองคิดเอาเอง
สุดท้าย ธุรกิจเครือข่าย ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของคนที่ไม่อยากเป็นมนุษย์เงินเดือน มนุษย์เงินเดือนทุกคนอยากออกนอกกรอบ แต่ก็กลัวที่จะต้องออกจาก safety zone เอาหล่ะ ผมจะบอกในตอนต่อไป ว่าทำยังไงให้เป็น คิดนอกกรอบ ในสไตล์ที่ควรเป็น
No comments:
Post a Comment