ความเดิมจากเมื่อวาน
สัมภเวสี:นักต้มตุ๋นแห่งวงการอสังหาฯ
ผมสังเกตุการณ์ในธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์มาหลายปี สิ่งที่ผมเห็นคือคนหลายจำพวก ตั้งแต่ คนเริ่มหัดทำธุรกิจ จนถึง คนที่เป็นระดับมือพระกาฬของวงการ ผมพบเจอนายหน้าของวงการนี้ หลากหลายประเภท คนที่เป็นตัวจริง จะไม่พูดอะไรมากมาย ไม่ค่อยเล่าprofile ความสำเร็จในอดีต หรือผลงานอันรุ่งเรือง คุยเข้าประเด็น ชัดเจน ตรงมาตรงไป อาจจะมีtrick บ้างเล็กๆน้อยๆ ตามสไตล์ของจอมยุทธ อันนี้เรียกว่า ตัวจริง แต่มากกว่าครึ่งในวงการนี้ เป็นพวกจับเสือมือเปล่า ไม่สิ เรียกว่าจับควันในอากาศมากว่าครับ คือ อธิบายง่ายๆ ในธุรกิจซื้อขายอสังหาฯ ประกอบไปด้วย ผู้จะซื้อ ผู้จะขาย และ นายหน้า
แต่ก่อนก็ง่ายครับ นายหน้าอาจจะรู้จักผู้ขาย หรือ ผู้ซื้อ แล้วก็match นัดมาเจรจา ตกลงเงื่อนไข ปิดdeal ได้เงินค่า commission สบายใจกันไป แต่ด้วยยุคสมัยเปลี่ยนไป นายหน้าเริ่มมากขึ้น คนขายมีมากขึ้น คนซื้อก็ไม่ได้มากขึ้นตาม กลายเป็นว่า นายหน้ารับงานต่อกันหลายๆทอด กลายเป็นคำพูดในวงการการว่า สายสั้น สายยาว ยิ่งยาวแปลว่า นายหน้าต่อกันหลายๆทอด ยิ่งมากคน ก็ยิ่งมากความ เพราะเรื่องผลประโยชน์ commission ใครๆก็อยากได้มาก เป็นเรื่องปรกติ เพราะคิดว่าตนเองสำคัญ หลายครั้งที่deal ล่มชนิดไม่เป็นท่าเพราะนายหน้าต่างไม่ยอมกัน คนที่เสียโอกาส ก็คงไม่ใช่ใคร ก็นายหน้านิแหละ ยอมหักแต่ไม่ยอมงอกัน อันนี้ชี้ให้เห็นว่า การไม่ยอมถอยกัน จะทำให้เสียงานทั้งกระบวน
วันนี้เล่าเกริ่นยาว เรื่องวงการนายหน้าอสังหาฯ มายาวเลย เข้าเรื่องเลยละกัน สำหรับสัมภเวสี ที่ผมได้พูดไว้ตอนต้นนั้น มันมีจริงครับ เริ่มด้วยจากการที่ใครสักคนได้โฉนดที่ดินมาจากเพื่อน สมมติว่าเป็นคุณเองนิแหละ ที่มีเพื่อนสนิทชื่อ นายเอ นายเอบอกคุณว่าที่ดินแปลงนี้เป็นสมบัติของเจ้าคุณปู่ อยู่ในซอยทองหล่อ กรุงเทพ เป็นบ้านเก่าเนื้อที่กว่า สิบไร่ นายเอ ผู้อยากเป็นนายหน้า ก็เริ่มไปศึกษาในอินเตอร์เน็ท ไปลงขายในเว็ปต่างๆ จนกระทั้งไปเจอ นางสาวเจน(นามสมมติ) นางสาวเจนบอกว่า ตนเองเป็นนายหน้า มีลูกค้าต้องการซื้อที่แปลงนี้ มีงบไม่จำกัด ขอให้ส่งรายละเอียดหน้าโฉนด พิกัด แผนที่ มาก่อน ทางemail , Line หรือfax (ใครยังใช้fax อยู่นิ ผมว่าอายุน่าจะเกิน 50 ไปแล้ว) ในการส่งข้อมูล
นายเอ จะคิดว่า การเป็นนายหน้ามันช่างง่ายจริงๆ หลังจากส่งไปแล้ว นางสาวเจน ก็เงียบหายไป โทรไปก็ไม่รับ ไลน์ไป เมล์ไปก็ไม่ตอบ หลังจากนั้นไม่นาน คุณเองจะได้รับโทรศัพท์มาที่บ้าน หรือมีคนแปลกหน้ามาขอพบ มาถามหาที่ดินแปลงเจ้าคุณปู่ที่ทองหล่อ นั้นแหนะ นายเอ เพื่อนคุณไม่มีทางรู้หรอก ว่าคุณกำลังจะขายที่แปลงนี้ให้กับทีมของนางสาวเจน หรือ ทางทีมของนางสาวเจนนี้แหละ ที่จะเอาข้อมูลจากคุณต่อ เพื่อเอาไปเสนอนายทุน(ซึ่งจริงๆก็ไม่มีหรอก แต่ขอเก็บข้อมุลเอาไว้ เผื่อว่าในอนาคตที่ไม่รู้ว่าจะมีใครหานายทุนได จะได้มาจับmatch) คนกลุ่มนี้ทำงานกันเป็นทีม นางสาวเจน นั้นเป็นนกต่อ มีทีมงานที่เป็นระบบในการเข้ากรมที่ดิน เพื่อขอดูหลังโฉนด นำชื่อที่ได้ไปหาในระบบทะเบียนราษฎร์ เพื่อหาที่อยู่ หากทราบชื่อจริง นามสกุลจริง ก็แค่หาในGoogle ลงไป แค่นี้ก็อาจจะได้ทั้งเบอร์มือถือ และที่ทำงาน
การกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าวนับว่าเป็นพวกทีมงานเจาะ หน้าที่คือ เจาะหาตัวเจ้าของอสังหาฯ หรือ เจาะย้อนหานายทุน โดยจะข้ามหัวนายหน้าที่ขวางหน้าทั้งหมด จึงไม่แปลกที่ในอดีต นายหน้าบางคนจึงถูกสังหารเหี้ยมโหด
ในวงการอสังหาฯ สมัยนี้ ข้อมูลข่าวสาร การลงขายอสังหาฯ มีมากจนข้อมูลล้นตลาด บางครั้งทรัพย์ตัวเดียวกัน แต่ราคาห่างกันมาก เพราะมีนายหน้าบางคนหัวใส ฉันไม่เอาcommission แต่ฉันจะบวกราคาเพิ่มขึ้นไป ราคาอสังหาฯ บางทีจากราคา 500ล้านบาท กระโดดไปถึง 1000ล้านบาท ก็เคยมีมาแล้ว ลองคิดกันเล่นๆว่า จะแบ่งค่านายหน้ามากแค่ไหน นี้อาจจะทำให้การขายไม่จบได้ครับ
กรณีสุดท้ายที่อยากจะกล่าวคือ การรักษาชื่อเสียง เสี่ยยักษ์" วิชัย วชิรพงศ์ เคยกล่าวไว้ว่าคนเรานั้น การรักษาเครดิตสำคัญมากๆ อย่าให้เสีย อีกอย่าง เราอย่าไปเอาเปรียบคนอื่น อยู่ในวงการนี้ถึงจะมีพรรคพวกมีคนนับถือ 2 ข้อนี้ จะส่งเสริมให้เราประสบความสำเร็จ..จำไว้!
สิ่งที่ผมกล่าวคือ การรักษาเครดิต การที่คุณไปขอเอกสารหรือข้อมูลจากใครก็ตาม ในเรื่องอสังหาริมทรัพย์ แปลว่าคนที่ให้ข้อมูลคุณไปเขาก็หวังลึกๆว่า คุณเองจะทำให้ดิลนั้นสำเร็จ เปรียบเสมือนการซื้อสลากกินแบ่ง(หวย) นิแหละครับ ฉะนั้น หากคุณรับงานมาแล้วก็จงดำเนินมันอย่างเต็มที่ อย่านำเอาเอกสารนั้นใส่ลิ้นชักแล้วไปหาออเดอร์อื่นต่อ วันไหนนึกขึ้นได้ก็ค่อยหยิบเอามาทำงาน มันแสดงว่าคุณก็แค่คนเก็บเอกสาร เป็นตู้เก็บเอกสาร แต่คนที่เขารอคอยว่าที่ของเขาจะขายได้ไหม เขายังคงรอคอยข่าวจากคุณเหมือนเขารอไปรษณีย์มาส่งพัสดุนั้นแหละครับ
อย่าให้ความหวังกับเจ้าของทรัพย์ว่าจะขายได้แน่นอน
แต่ขอให้คุณพยามยามเต็มความสามารถในการขายหรือปิดdeal ให้ได้ ต้องพยามจริงๆนะ
และอย่าเอาเปรียบอีกผ่าย(ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม) โดยการไปนั่งกินกาแฟ แล้วให้เขาจ่ายทั้งหมด
จะทำธุรกิจกับเขา คุณต้องรู้จักคำว่าshare ไม่ใช่take กันตั้งแต่ยังไม่เริ่มงาน บอกเลยครับว่าเจอมาเยอะ อีกเรื่องที่อยากจะฝากเลยครับ เรื่องการพบเจอกันครั้งแรกระหว่างนายหน้า first impression เป็นเรื่องที่สำคัญ ถามว่าทำไมเหรอครับ คนบางคนแค่เจอกันก็ยังไม่ผ่าน ไม่ว่าจะเสื้อผ้า สีผมการแต่งตัว กิริยาท่าทาง
เคยมีอยู่กรณีนึง นายหน้าท่านนั้นมาขอเอกสารอสังหาฯกับผม มูลค่าทรัพย์ประมาณหนึ่งพันล้้านบาท แต่ขอโทษนะครับ การแต่งตัวไม่สมกับมูลค่าของทรัพย์ที่จะขาย (อ้างกับผมว่าติดทุนซื้อ) เคสนั้นผมให้ดู ดูอย่างเดียว แล้วดึงเอกสารกลับ บอกคำเดียวว่า ถ้าไม่พาคนซื้อมาเจอก็ไม่ต้องมารับเอกสาร สรุปว่าเคสนั้น นายหน้าคนนั้น ผมติดตามถาม โทรก็ไม่รับ และ ไม่เคยติดต่อกลับมาอีกเลย !!
No comments:
Post a Comment